ใช้งั่งแล้วหญิงติด…จริงหรือ???

สุดยอดความโดดเด่นของงั่งที่ผู้คนให้ความสนใจ อีกทั้งยังเป็นคุณสมบัติเด่นของงั่งที่เหล่านักสะสมและผู้นิยมชมชอบในเครื่องรางประเภทนี้ อยากจะทดลองให้เห็นกับตา นั่นคือเรื่อง เมตตามหาสเน่ห์
ตอนที่ผมตัดสินใจที่จะใช้งั่งนั้น ผมสนใจในคุณสมบัติด้านมหาอุตย์และคงกระพัน ผมมีพระและตะกรุด แต่อย่างที่เราทุกคนรู้ดีครับว่าทั้งพระและเครื่องรางประเภทต่างๆสามารถ”เสื่อม”ได้หากเราไว้ผิดที่ผิดทาง (อยู่ในที่ๆไม่เหมาะสม) ไปลอดราวตากผ้า หรือแม้แต่กระทั่งความเหนียวและความขลังของพระและเครื่องรางของเราจะเสื่อมหากโดนฝ่ายตรงข้ามเอาประจำเดือนทาที่ลูกปืน มีด หรืออาวุธที่ะมาทำร้ายเรา ก็จะทำให้เราได้รับบาดเจ็บหรืออันตรายจากอาวุธเหล่านั้นได้
แต่…จากที่ลองอ่านข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ทำให้ผมทราบว่า มีเครื่องรางประเภทหนึ่งที่สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แถมยังชอบของต่ำเสียด้วยซ้ำ อ่านตอนแรกแล้ว…งงครับ นั่งคิดอยู่พักนึงว่า จะมีเครื่องรางของขลังประเภทไหนที่ชอบของอย่างว่า??? มันต้องเป็นแนวพวกของทำสเน่ห์หรือเครื่องรางที่หมอผีทำแน่ๆ ยิ่งค้นคว้าก็ยิ่งแปลกใจครับเพราะว่ามีข้อมูลหลายแบบและหลายความเชื่อ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาเกี่ยวกับเรื่องสเน่ห์และความเหนียวคงกระพัน

หลังจากที่ผมได้เป็นเจ้าของงั่งตัวแรก (มะขามเทศ) การใช้งานของผมจะเป็นแบบผูกเชือกแขวนเอวครับ เพราะผมชอบให้งั่งสัมผัสกับร่างกายครับ เคยพกแบบใส่กระเป๋ากางเกงแล้วมันไม่ใช่ครับ บางครั้งก็ลืมว่าพกงั่งมาด้วย กลัวจะลืมครับ แต่ถ้าแขวนติดเอวไว้ล่ะก็ ถึงไหนถึงกัน ผมพา”มะขามเทศ”ไปไหนมาไหนด้วยตลอดครับ ก็ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติยกเว้น 2-3 วันแรกที่มึนหัวตลอด ช่วงสัปดาห์แรกของการใช้งานผมก็พา งั่งเขมรตาโปรอุดกริ่งมะขามเทศ ไปนั่งกิน Mc Donald Drive Thru สาขาถนนเพชรเกษม โดยที่ผมไปกับแฟน เราสั่งอาหารแล้วขึ้นมานั่งกินที่ชั้น 2 ของร้านโดยที่ชั้นบนจะไม่ค่อยมีคน ผมเดินขึ้นมานั่งกินกับแฟนก็เลือกเข้าไปนั่งด้านใน เราก็นั่งกินตามปกติ ฝั่งตรงข้ามผมเป็นเด็กวัยรุ่นผู้หญิง 3 คนนั่งหันหน้ามาทางผม ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร นั่งกินไปเรื่อยๆรู้สึกว่ามีคนจ้องอยู่เลยเงยหน้าขึ้นดู ก็เห็นเด็กผู้หญิงคนนึงนั่งมองผมอยู่พอเห็นว่าผมหันไปมองน้องเค้าก็รีบหลบตา ครั้งแรกก็เฉยๆครับแต่ระหว่างที่ผมนั่งกินไปเรื่อยๆ น้องเค้าก็มองมาตลอด ทั้งๆที่ผมก็นั่งติดกับแฟนและก็นั่งคุยกับแฟนตลอดเวลา พอหันไปมองเค้าก็แกล้งคุยกับเพื่อนของเค้า แต่สายตาที่มองผมมาไม่ได้มองแบบยิ้มเชิญชวนนะครับ เป็นการมองแบบจ้องๆ ผมก็ว่ามันแแปลกๆเพราะปกติอายุแบบผม (30+) เด็กๆอายุขนาด 14-15 ปี ไม่น่าจะสนใจ เออ…แปลกดี

หลังจากนั้น ผมเกิดอุบัติเหตุรถชนก็เลยต้องนั่งแท็กซี่ไป-กลับที่ทำงานทุกวัน มีอยู่วันนึงตอนเย็นผมก็ยืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ตรงข้ามบริษัท ก็ยืนรอรถอยู่ปกติ ผมชอบนะครับเวลายืนรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ก็จะเห็นคนเยอะแยะเดินไปมา ผมเห็นน้องคนนึงเดินลงมาจากสะพานลอยก็มองเค้าตามปกติครับ พอเค้าเดินลงมาถึงพื้นริมฟุตบาทผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เค้ายืนห่างผมประมาณ 4 ม. ผมไม้ได้มองเค้าต่อและก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเนื่องจากตั้งใจรอรถแท็กซี่ พอรถมาจอดผมก็ขึ้นรถเข้าไปนั่งด้านหลัง พอผมกำลังจะปิดประตูคนขับก็หันมาถามว่า “ทำไมไม่เรียกน้องคนนั้นขขึ้นรถมาด้วย” ผมเองก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าบอกว่าช่วงที่เค้าเห็นผมโบกรถเค้าก็ขับรถชะลอเข้ามา ระหว่างรถชะลอผมก็รีบเดินมาที่รถแท็กซี่โดยไม่รอให้รถมาถึงตรงหน้าผม ซึ่งการเดินมาขึ้นรถก็ทำให้เดินเข้ามาใกล้น้องคนนั้นมากขึ้น คนขับบอกว่าเค้าเห็นน้องผู้หญิงมองผมตาไม่กระพริบ จ้องแบบจะกิน!!! นึกว่ารู้จักกันและก็มาด้วยกัน (สงสัยพี่คนขับนี่ออกแนวเจ้าชู้ ผมโบกรถเค้าแท้ๆ แทนที่จะมองผมดันไปมองสาวๆ ถึงเห็นว่าน้องเค้าจ้องผมอยู่ 555) เค้าบอกว่าน้องมองผมตั้งแต่ผมเดินมาที่รถจนผมขึ้นรถมา มองแบบจ้องจนเค้าคิดว่าจะไปด้วยกัน…ว่าไปนั่น!!!

สำหรับผม ผมไม่เชื่อเรื่องนี้ครับ แค่นี้มันธรรมดาไป แล้วก็อีกอย่างถ้าผมเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเพราะ”งั่ง”ก็เท่ากับว่าผมไม่ให้เครดิตรูปร่างหน้าตาตัวเองเลย
เดี๋ยวครั้งหน้าผมจะมาเล่าเรื่องแนวๆนี้ให้ฟังอีกครับ ยังมีอีก สวัสดีคร้าบ…บ