อย่างที่ผมเคยเล่าไว้ในบทความก่อนหน้านี้เรื่องวัตถุมงคลหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ซึ่งผมพอมีอยู่บ้าง หนึ่งในนั้นคือกำไลจักพรรดิ์หลวงปู่หมุนวงนี้ ซึ่งผมได้มาตั้งแต่ปี 2545 ที่ผ่านมาผมจะเก็บเอาไว้บนหิ้งตลอดครับ ไม่ได้ใช้งาน เคยมีเอามาใส่อยู่บ้าง 1-2 ครั้ง (ครั้งละวันสองวันก็ถอดออก เพราะกลัวจะสึกและเป็นรอย)
จนเมื่อช่วงต้นปี 2560 ที่ผ่านมา นึกครึ้มอกครึ้มใจอยากนำกำไลจักพรรดิ์หลวงปู่หมุนมาใส่ จึงได้ฤกษ์นำกำไลลงจากหิ้ง ซึ่งการใส่กำไลจักพรรดิ์หลวงปู่หมุนของผมนั้น จะไม่ได่ใส่ติดตัวตลอดเวลา ผมจะใส่ในตอนเช้าโดยใส่ติดตัวทั้งวัน และถอดออกตอนอาบน้ำช่วงค่ำๆ ซึ่งจาการใส่อยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เกิดเหตการณ์ “กำไลร้าว” ซึ่งสะเทือนใจผมมาก เนื่องจากกำไลวงนี้ผมหวงมาก อุตส่าห์เก็บโดยไม่นำมาใช้ก็เพราะว่ากลัวจะเป็นรอยหรือสึกหรอ
ซึ่งรอยร้าวนั้น เกิดจาการที่ผมถอดเข้าออกบ่อย โดยรอยร้าวเกิดตรงตำแหน่งร่องยันต์ที่อยู่ตรงจุดขยับตัวเวลาที่ผมง้างกำไลเข้าออก ถือว่าโชคดีครับที่แค่ร้าวไม่หักออกจากกัน ตั้งแต่วันนั้นผมจึงเก็บกำไลเข้าตู้เซฟ ไม่ได้ใช้งานต่อ ได้แต่นึกในใจว่าจะหาวิธีที่จะนำกำไลจักพรรดิ์หลวงปู่หมุนมาใส่อีกให้ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นรูปกำไลหลวงปู่หมุนที่ผ่านการเลี่ยมทองมาแล้ว คิดว่าน่าจะช่วยให้กำไลแข็งแรงขึ้นได้
ขั้นตอนการดำเนินงาน
• เลือกแบบที่ต้องการ
• ประเมินราคา
• ชำระค่ามัดจำและรอดำเนินการ
หลังจากปรึกษาช่างทองว่าสามารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้ผมสามารถนำกำไลวงนี้มาใส่ใช้งานได้อีกครั้ง ได้คำแนะนำมาว่าสามารถเชื่อมโดยน้ำยาประสานเงินได้ และการเลี่ยมกรอบด้วยทองนั้นจะช่วยให้โครงสร้างกำไลแข็งแรงขึ้นเพราะเหมือนมีเฟรมโลหะมาประคองรูปทรงกำไลและเสริมความแข็งแรงของกำไลที่ขอบทั้ง 2 ด้าน
ซึ่งกรอบทองคำที่เลี่ยมเอาไว้นั้นไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงแค่กรอบป้องกันรอยเท่านั้น ยังสามารถรองรับแรงในการยืดหดตัวของกำไลในระหว่างใช้งานได้ด้วย เนื่องจากในการเลี่ยมแบบนี้นั้นกรอบทองคำจะต้องใช้น้ำยาประสานให้เป็นเนื้อเดียวกับกำไล ถ้าเป็นเช่นนั้น…กำไลหลวงปู่หมุนวงนี้ของผม ก็จะสามารถนำกลับมาใส่ได้อีกครั้ง
ที่ผมเลือกแบบเรียบๆเพราะต้องการให้ลวดลายบนกำไลนั้นดูโดดเด่น จากแบบที่เห็นจะเป็นการขึ้นตัวเรือนทองคำครอบกำไลที่ขอบนอก เชื่อมด้วยคาน 2 เส้นทั้งด้านนอกและด้านใน และไม่ได้หุ้มด้านในทึบด้วยเหตุผล 2 ข้อครับ
๑.การหุ้มทองด้านในทึบ (ด้านที่ติดกับข้อมือ) จะทำให้บังลวดลายต่างๆ
๒.การหุ้มทองด้านในทึบ ทำให้ใช้ทองคำเยอะขึ้น ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นด้วย
ซึ่งกำไลจักพรรดิ์วงนี้เป็นขนาดกลางครับ ที่รู้ว่าเป็นขนาดกลางเพราะที่บ้านผมมีวงเล็กอีกวงนึงครับ (เป็นของคุณแม่ผมเอง) และก็เคยเห็นขนาดใหญ่กว่านี้เช่นกัน
การคิดค่าใช้จ่าย
ซึ่งค่าใช้จ่ายจะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ
๑.ค่าทองคำ
คิดจากน้ำหนักทองที่ใช้จริง มีสูตรดังนี้
น้ำหนักกำไลหลังเลี่ยมทอง – น้ำหนักกำไลก่อนเลี่ยมทอง = น้ำหนักทองที่ใช้
จากในรูป น้ำหนักทองที่ใช้กับกำไลวงนี้คือ 38.95 – 27.41 = 11.54 กรัม
(ทอง 1 บาท หนัก 15.24 กรัม)
ซึ่งทองคำที่ใช้เลี่ยมกำไลหรือเลี่ยมพระนั้น จะเป็นทองที่คนมักจะเรียกว่าทอง 90 (สมัยก่อนเรียกแบบนี้) ซึ่งจะมีเปอร์เซ็นต์ทองอยู่ประมาณ 75% (ปัจจุบันเรียกว่าทอง 75 ตามกฏของ สคบ.) ซึ่งทอง 75% นั้นจะมีความแข็ง เหมาะกับการใช้ทำกรอบพระและกำไล ซึ่งราคาที่ช่างคิดในการเลี่ยมนั้นคิดหน่วยเป็นกรัม ซึ่งราคาต่อกรัมจะแพงกว่าราคาทองรูปพรรณ 96.5% เนื่องจากรวมค่าแรงและค่าฝีมือไปในค่าทองแล้ว ดังนั้นหากรู้ข้อมูลตรงนี้ก่อน เวลาเอาพระหรือกำไลไปเลี่ยม จะได้ไม่ต้องไปทะเลาะกับช่างเรื่องราคาทอง 75% ที่สูงกว่าราคาทองรูปพรรณ 96%
๒.ค่าแรงช่าง
ขึ้นอยู่กับแบบและลวดลายที่เลือก ซึ่งผมเลือกแบบเรียบๆครับ
ค่าแรงช่างในหัวข้อที่ ๒ ก็คิดซะว่าเป็นค่ากำเหน็จแล้วกันครับ
***ขอไม่ระบุตัวเลขทั้งค่าทองและค่าแรง เพื่อไม่ให้เกิดการเปรียบเทียบกับที่อื่นครับ***
หลังจากได้รับกำไลมาเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่ผมคิดคือ ไม่กล้าใส่ 555 เพราะว่าสวยมากครับ ตั้งแต่ได้มาผมยังไม่เคยล้างกำไล ทำให้แต่ก่อนกำไลจะเป็นสีเงินออกดำๆ แต่หลังจากเลี่ยมเสร็จแล้ว สภาพก็ตามที่เห็นครับ สีของกำไลนั้นขาวเงาวับแถมมีกรอบทองคำล้อมรอบ พูดได้คำเดียวว่า “อลังการ” มากครับ
ปกติการใส่กำไลหลวงปู่หมุน ผมจะนึกถึงแต่ว่ากำไลที่ใส่อยู่นั้นเป็นเครื่องรางของขลัง แต่กำไลวงนี้หลังจากเลี่ยมเสร็จแล้วให้ความรู้สึกว่าเป็นเครื่องประดับไปเลยครับ ซึ่งถือว่าภารกิจในการเลี่ยมทองกำไลหลวงปู่หมุนของผมนั้น สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ต้องยอมรับครับว่าถ้าหากกำไลไม่ร้าว ผมคงจะไม่นำมาเลี่ยมทอง ซึ่งการร้าวของกำไลนั้น ตอนที่เกิดขึ้นผมรู้สึกแย่มาก แต่พอผ่านตรงนั้นมาแล้วก็สามารถหาวิธีแก้ไขได้โดยการเลี่ยมทอง ผลลัพธ์ก็คือได้กำไลที่สวยมากๆมาใช้งาน เรื่องนี้ให้ข้อคิดที่ว่า “สิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นย่อมดีเสมอ”
อัพเดทข้อมูลวันที่ 10 เม.ย. 2566
หลังจากที่โพสต์โชว์การเลี่ยมกำไลจักรพรรดิเนื้อเงิน หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ไปเมื่อปี 2551 ผ่านมาเกือบ 5 ปี ปัจจุบันกำไลวงนี้สภาพเป็นแบบนี้ครับ ทางผมได้นำออกมาใส่อยู่เรื่อยๆ
ส่วนที่สัมผัสกับร่างกาย ก็จะเป็นสีเงินวาว ส่วนที่ไม่โดนสัมผัสก็จะเป็นสีดำ ซึ่งดูแล้วคลาสสิคมากครับ ต่างกับตอนที่เลี่ยมเสร็จใหม่ ตอนนั้นสภาพใสวิ๊งมาก (สวยจนไม่กล่าใช้ครับ 555)
สำหรับประสบการณ์นั้น ผมไม่ได้พบเจออะไรเป็นพิเศษ เพราะในวัย 40 ต้นๆแบบผม ไม่ได้ใช้ชีวิตลุยหรือหวือหวาเหมือนสมัยวัยรุ่น ถึงจะไม่ได้เจออภินิหารหรือเรื่องพิศดาร แต่การที่ไม่พบเจอกับเรื่องร้ายๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้วครับ ซึ่งผมเชื่อในพุทธคุณของวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุนทุกชิ้นครับ เพราะเคยเจอกับตัวเองสมัยเป็นนักศึกษามาแล้ว ปัจจุบันการบูชาใช้งาน จึงเป็นการพกเพื่อความมั่นใจและอุ่นใจในการดำเนินชิวิตครับ ซึ่งหากมองดีๆ รูปทรงของกำไลจักรพรรดิวงนี้ สามารถใส่ไว้้เป็นเครื่องประดับได้ด้วย เพราะรูปทรงทันสมัยยิ่งเลี่ยมทองด้วยแล้ว ยิ่งดูหรูหราขึ้นไปอีกเยอะเลยครับ ซึ่งเหมาะกับยุคสมัยนี้เป็นอย่างมากครับ ที่วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังต่างๆมักจะทำออกมาให้รูปทรงสวยงาม มีสีสันรูปแบบต่างๆที่ทันสมัย
ไม่แน่ใจว่าจะมีใครที่อ่านบทความนี้เมื่อ 5 ปีก่อน แล้วกลับมาอ่านบทความนี้อีกรอบไหม ที่ผมกลับมาอัพเดทบทความอีกครั้ง เพราะว่าตอนนี้ผมกำลังรวบรวมและอัพเดทข้อมูลวัตถุมงคลหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล ที่ผมมี นำเอามาเขียนบมความเพื่อเป็นการเผยแผ่บารมีของหลวงปู่หมุนครับ นี่จึงถือเป็นบทความแรกที่ผมมาอัพเดทข้อมุล และหลังจากนี้จะมีการอัพเดทบทความใหม่เรื่อยๆ ฝากติดตามกันด้วยครับ
แอดเป็นเพื่อนกับ MODERN MAJIK ใน LINE
คุณจะไม่พลาดข่าวสารและบทความล่าสุดจากเรา
รับซื้องั่งและเป๋อเก่า
ติดตามเราผ่าน Facebook Fanpage