ผมเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์เบี้ยแก้วัดคฤหบดีมาจากปากรุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งมีไว้บูชาติดตัว เป็นเบี้ยแก้ที่ออกมาช่วงประมาณปี 2557-2558 โดยรุ่นน้องคนนี้ได้นั่งรถไปเที่ยวกับเพื่อนที่ต่างจังหวัดแล้วรถประสบอุบัติเหตุ ตัวเค้าเองก็ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มากนัก ซึ่งเค้าแขวนเบี้ยแก้วัดคฤหบดีติดตัวอยู่
ผมเองหลังจากที่ได้ฟังก็เริ่มสนใจเบี้ยแก้วัดคฤหบดี เพราะปกติจะคุ้นเคยและได้ยินแต่ชื่อเบี้ยแก้สายนครชัยศรีและสายจังหวัดอ่างทอง พอศึกษาข้อมูลถึงได้ทราบว่าเบี้ยแก้วัดคฤหบดี เป็นสายวิชาจากวัดนายโรงโดยมีหลวงปู่ทัตเป็นผู้เริ่มต้นการทำเบี้ยแก้วัดคฤหบดี ซึ่งในช่วงนั้นเองผมก็ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของเบี้ยแก้วัดคฤหบดี ที่ยังพอมีเหลืออยู่ที่วัด ซึ่งเบี้ยแก้ที่ผมได้มานั้นเป็นแบบชุบรักอย่างหนา สีดำมันวาว ปรอทวิ่งดีมาก เขย่าแล้วสนุกดีครับ ขนาดของตัวเบี้ยก็จะกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่ทรงจะเพรียว ซึ่งเบี้ยแก้วัดคฤหบดีนั้นมีเอกลักษณ์คือจะมีตะกรุดถักติดกับตัวเบี้ย โดยรุ่นที่ผมได้มานั้นตะกรุดเป็นตะกั่ว ตอกโค๊ดปี 2555
และหลังจากนั้นไม่นานทางวัดก็ได้สร้างเบี้ยแก้ออกมาให้บูชาอีกครั้ง โดยครั้งนี้ผมบูชามา 2 ลูก เป็นแบบลงรักบางตะกรุดที่ติดกับตัวเบี้ยเป็นตะกรุดทองแดง ตอกโค๊ดปี 2557 โดยผมเก็บไว้เอง 1 ลูกและให้คุณแม่ไปใช้ 1 ลูก ซึ่งลูกที่ผมเก็บเอาไว้เองนั้น ผมได้นำมาลงรักเพิ่มเพื่อให้สวยงามขึ้น
หลังจากนั้นอีกไม่นานทางวัดไดจัดทำเบี้ยแก้รุ่นพิเศษจำนวน 20 ลูกซึ่งผมมีโอกาสได้มา 1 ลูก แบบชุบรักอย่างหนา ตะกรุดที่ติดกับตัวเบี้ยเป็นตะกรุดทองแดง ลูกนี้ Limited Edition ครับ (ตามรูปด้านล่าง)
สำหรับประสบการณ์ในการใช้งานนั้น ผมเองมีหลายลูกและหลายสำนัก จึงสลับกันพกครับ ยังไม่เคยเจออภินิหาร แต่ผมเชื่อว่า ผมมีของดี ช่วยให้ผมระลึกถึงครูบาอาจารย์ และพระธรรมของพระพุทธเจ้า ดังนั้นผมจึงคิดดีและทำดี นั่นทำให้ชีวิตของผมดีในแบบที่ควรจะเป็นครับ
ขอบคุณรูปภาพและบทความจากกลุ่ม เบี้ยแก้ของดีคู่กาย