ผมรอมานานมากกว่าที่จะเจอประสบการณ์นี้…พร้อมรึยังครับ
ผมตั้งใจจะเผยแพร่บทความนี้ตอนครบรอบ 10 ปี MODERN MAJIK ในปี พ.ศ. 2566 (ผมได้ครอบครองงั่งตาโปนองค์แรกที่ชื่อ “มะขามเทศ” วันที่ 24 ส.ค. 2556) เนื่องจากต้องการรอให้เจอประสบการณ์ต่างๆให้ครบทุกเรื่องแล้วค่อยเผยแพร่บทความนี้
ซึ่งประสบการณ์ที่ผมยังไม่เคยพบนั้นก็คือ ประสบการณ์พระงั่งไปเข้าฝันไล่ปล้ำผู้หญิง เนื่งจากผมเป็นผู้ชาย พกใช้งานพระงั่งและอีเป๋อด้วยตัวเอง คงไม่มีทางจะโดนไอ้งั่งเข้ามาไล่ปล้ำแน่ๆ
ส่วนเรื่องพระงั่งพลิกได้นั้น ข้อนี้ผมเองก็อยากพบด้วยตัวเองแต่คิดว่าโอกาสที่จะได้เจอนั้นน้อยมากจึงไม่รอประสบการณ์ในข้อนี้ ได้แต่หวังในใจลึกๆว่า ก่อนครบรอบ 10 ปีของ MODERN MAJIK จะมีโอกาสได้เห็นพระงั่งพลิกได้ด้วยตาตัวเอง
จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมได้ใช้งานพระงั่ง/ไอ้งั่ง/อีเป๋อมานั้น ผมเจอมาครบทุกด้าน หลากหลายแง่มุม ในช่วงเวลาที่ต่างกัน ซึ่งหัวข้อสุดท้ายเรื่อง “ไอ้งั่งเข้าฝันไล่ปล้ำ” ผมเพิ่งเจอมาได้ประมาณ 1 ปี
ที่ยังไม่ได้เขียนบทความนี้เนื่องจากต้องการให้เกิดความแน่ใจก่อน ผมจึงปล่อยเวลาให้ผ่านมาจนผมมั่นใจว่าประสบการณ์ของผมในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการคิดไปเอง ก่อนจะเล่าประสบการณ์ “ไอ้งั่งเข้าฝันไล่ปล้ำ” ผมขอให้คำจำกัดความของพระงั่ง ไอ้งั่ง ไอ้เป๋อ อีหง่าง ก่อนครับ เพื่อที่จะได้ไม่สับสนเวลาผมพูดถึง
ในความหมายของ MODERN MAJIK ผมให้นิยามว่า
พระงั่ง คือ พระพุทธรูปปางนั่งสมาธิ มีทั้งแบบหัวโล้น เกศตรง และเกศเอียง นั่งขัดสมาธิเเพชร มีสังฆาติ มือประสานโดยมีนิ้งโป้งกระดกขึ้นมา นั่งบนฐาน(แท่น) มีลายสามเหลี่ยมซึ่งนิยมเรียกว่าฐานฟันปลา
ที่พบเห็นส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อทองดอกบวบ ทองผสม (ทองศรัทธา) เนื้อสำริด ภายในฐานบรรจุดินปิดทับด้วยโลหะ ซึ่งกรมศิลปากรได้จัดพระงั่งในรูปแบบนี้ว่าอยู่ในกลุ่มของ “พระชัย”
ดูรูปร่างหน้าตาแล้วมีพุทธศิลป์เหมือนพระเครื่อง พระบูชา ขนาดมีตั้งแต่ขลาดเล็ก จนถึงขนาดกลาง หากเป็นขนาดใหญ่จะเป็นพระชัยอยุธยา ซึ่งในส่วนนี้มีลักษณะมาตรฐานชัดเจน
พระเฉลิมพล (พระงั่งอุดกริ่ง) คือ เครื่องรางของขลังประเภทหนึ่ง ทำออกมาในรูปแบบผสมผสานระหว่างพระเครื่องและเครื่องราง โดยลักษณะจะเป็นเหมือนพระพุทธรูปนั่งสมาธิ ใบหน้ากลม มีเกศหมุนวนขึ้นเป็นเกลียว โดยมีทั้งแบบเกศเอียงซ้าย เกศเอียงขวาและเกศตรง
ดูไม่เหมือนพระและคน ดวงตาจะมีหลายประเภททั้งดวงตาสีแดงจากพลอย ดวงตาสีแดงจากเม็ดทองแดง ตะปูทองแดง ดวงตานูนโปน (งั่งตาโปน) ใบหูกางใหญ่ นั่งบนฐาน(แท่น) มีลายสามเหลี่ยมซึ่งนิยมเรียกว่าฐานฟันปลา จะมีทั้งแบบหลังเรียบ หลังลายยันต์นูน(เส้นขนมจีน)
พบเห็นทั้งแบบฐานอุดกริ่งและแบบฐานตัน จะมีเนื้อทองแดงเถื่อน เนื้อสำริด เนื้อทองผสม เนื้อทองเหลือง เนื้อชินและเนื้ออื่นๆ
ไอ้งั่ง-ไอ้เป๋อ-ไอ้ใบ้-อีหง่าง คือ เครื่องรางของขลังที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคน พบเห็นในรูปแบบท่าทางต่างๆ ที่เห็นมากจะะเป็นท่านั่งถ่างขาโชว์อวัยวะเพศ หรือนั่งแก้ผ้าเอามือกำอวัยวะเพศ
มีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กประมาณเหรียญสิบบาท ไปจนถึงขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือ มีทั้งแบบธรรมดาและแบบทรงเครื่อง (มีกำไลข้อมือ กำไลแขน กำไลข้อเท้า สวมสร้อยคอ-สร้อยสังวาล)
ดวงตามีทั้งแบบธรรมดาคือตาเป็นเนื้อเดียวกับตัว และแบบตาแดงโดยตอกตะปูทองแดงหรือตาที่ฝังเม็ดทองแดง อวัยวะเพศชายจะมีทั้งแบบเน้อเดียวกับตัวและแบบแท่งทองแดง ขนาดเล็กใหญ่ตามศิลปะของแต่ละพิมพ์ พบเจอทั้งเนื้อทองเหลือง เนื้อทองผสม เนื้อทองแดง เนื้อสำริด เนื้อเงิน และอื่นๆ ส่วนอีเป๋อก็จะเป็นเพศหญิง
อีเป๋อ-แม่เป๋อ คือ เครื่องรางของขลังที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคน รูปร่างลักษณะเหมือนกับไอ้เป๋อ แต่เป็นเพศหญิงมีทั้งแบบนั่งถ่างขาและนั่งใช้มือแหวกอวัยวะเพศ
ซึ่งหากดูตามรูปทรงและศิลปะแล้ว ไอ้เป๋อ/ไอ้ใบ้(อีหง่าง)/อีเป๋อ จะดูเป็นเครื่องรางที่ดุดันและ Hardcore (โป๋เปลือย) มากที่สุด เรียกได้ว่าหากมองผ่านๆโดยไม่รู้จัก คิดว่าเป็นเครื่องรางสายล่างที่เน้นเรื่องเพศ/ตัณหา/ราคะ แน่นอน
เอาล่ะครับ…หลังจากทราบนิยามและความหมายของพระงั่งแบบต่างๆไปแล้ว มาถึงประสบการณ์ที่ผมจะแชร์ให้อ่่านกันครับ
งั่งหัวโล้นตาแดงโงกุน ไอ้เป๋อ (ไอ้ทิด) อีเป๋อ (อีจุก)ไอ้งั่งเข้าฝันไล่ปล้ำคนในบ้าน
ในการใช้งานช่วงแรกๆของผม ผมเริ่มจากการใช้พระเฉลิมพล (พระงั่ง) แบบต่างๆ รวมถึงพระงั่งฐานดินพิมพ์ต่างๆทั้งเกศตรง เกศเอียงและแบบเศียรโล้น ซึ่งประสบการณ์ที่ผมจะพูดถึงนี้ เกิดจากพระงั่งพิมพ์นั่งถ่างขาโชว์ปีก๊าดจู้ครับ ซึ่งเริ่มต้นจาก “โงกุน” ก่อนเลย อ่านข้อมูลได้ตามลิงค์นี้ครับ ประวัติไอ้งั่งหัวโล้นตาแดง “โงกุน”
นั่นคือครั้งแรกที่ภรรยาผมเจอ “งั่งเข้าฝัน”
แต่ในความฝันนั้นไม่ได้มาในรูปแบบที่น่ากลัวเพราะว่างั่งมาเข้าฝันในภรรยาผมในรูปร่างที่เป็นตัวผม
ซึ่งครั้งแรกนั้นเกดิขึ้นในวันแรกที่ผมได้โงกุนมาในวันแรก (วันที่ 21 ก.พ. 62) และหลังจากนั้นภรรยาผมก็มีฝันถึงผมในแบบเดียวกันนั้นอีก 1-2 ครั้ง ซึ่งผมไม่ได้จดบันทึกเอาไว้ว่าเป็นวันไหน
โดยฝันในรูปแบบเดิมคือ…เจอผมในฝัน (เหมือนครั้งแรกที่ฝัน) ซึ่งการฝันในครั้งที่ 2 และ 3 ผมและแฟนมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญและก็ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับ “ไอ้งั่งหัวโล้นตาแดงโงกุน” รึเปล่า
ต้องบอกก่อนนะครับว่าปกติภรรยายผมจะไม่ฝันถึงผมในรูปแบบนี้ เพิ่งฝันแบบนี้ตั้งแต่ที่ได้โงกุนเข้ามาในบ้าน
จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 1 ปี วันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. 63 หลังจาากที่ผมเดินทางไปรับ “ไอ้งั่งหัวเกลียวตาทองแดงจักรพรรดิ” กลับมาที่บ้าน ผมและครอบครัวก็ใช้ชีวิตตามปกติ
ซึ่งช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 63 เป็นเทศกาลตรุษจีน โดยในคืนวันที่ 23 ม.ค. 63 ภรรยาผมฝันแบบเดิมอีกแล้ว ฝันว่าเจอผมในฝัน โดยที่ตื่นมาตอนเช้าภรรยาผมยังไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง รอจนช่วงเย็นแล้วจึงค่อยเล่า โดยหลังจกที่ผมได้ฟังแล้ว ผมนึกถึงเรื่องโงกุนเข้าฝันแฟนผมขึ้นมาทันที ผมจึงถามว่ารูปร่างลักษณะตัวผมในฝันนั้นเป็นอย่างไร ภรรยาผมบอกว่าในฝันนั้นผมดูตัวใหญ่มาก
ซึ่งพอบอกแบบนี้ผมจึงตั้งสมมติฐานว่าในฝันนั้น ไม่น่าจะใช่โงกุนเพราะโงกุนจะเข้าฝันภรรยาผมโดยที่เป็นตัวผมในรูปร่างปกติ แต่ตรั้งนี้นั้นแตกต่างออกไป ภรรยาผมย้ำว่าเห็นผมตัวใหญ่มาก
ผมจึงรีบถามภรรยาว่ากลัวไหม เค้าตอบกลับมาว่า ไม่กลัว!!! เพราะเค้าฝันเห็นเเป็นผม แต่เค้าเองที่บอกผมว่าน่าจะเป็นงั่งมาเข้าฝัน เนื่องจากเค้าไม่ได้ฝันแบบนี้นานแล้ว (ตั้งแต่ได้โงกุนมาประมาณ 1 ปี ฝัน 3 ครั้ง เฉลี่ย 4 เดือน ฝัน 1 ครั้ง) ซึ่งจะเป็นความบังเอิญหรือไม่ก็ไม่ทราบ พอได้พระงั่งมาใหม่ (จักพรรดิ) และพาเข้าบ้านวันแรก คืนนั้นฝันเลย ผมเองจึงได้คุยกับแฟนว่า
ไม่น่าจะเกี่ยวกับงั่ง…น่าจะเกิดจากความบังเอิญ
หลังจากผ่านวันนั้นไป ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ ผมและภภรยาก็ใช้ชีวิตตามปกติ จนวันอาทิตย์ที่ 15 ก.พ. 63 ผมบินไปรับตัวไอ้งั่งโบราณตาทองแดง “ขุนศึก” และ “ราชัน” มาอยู่ด้วยกัน
ซึ่งประสบการณ์ของ “ขุนศึก” สามารถอ่านได้ที่ลิงค์นี้ครับ ไอ้งั่งหัวโล้นตาทองแดงขุนศึก
เล่าสรุปคร่าวๆให้ฟังครับว่า “ขุนศึก” นั้นแฟนผมสามารถสัมผัสความรู้สึกได้เช่นกัน แต่ยังไม่ถึงขั้นมาเข้าฝันแต่อย่างใด โดยในช่วงที่ผมตื่นเต้นและกำลังเห่อ”ขุนศึกและราชัน” อยู่นั้น
ในวันที่ 18 ก.พ. 63 ในขณะที่แฟนผมนอนพักช่วงกลางวัน (ภรรยาผมทำธุรกิจส่วนตัวกับที่บ้านช่วงกลางวันจะเป็นช่วงที่นอนพักผ่อน) ภรรยาผมฝันอีกแล้วครับ
โดยในฝันนั้นภรรยาเห็นผมมาในรูปร่างใหญ่ คล้ายกับฝันครั้งก่อนในคืนวันที่ 23 ม.ค. 63 ซึ่งผ่านมาประมาณเกือบ 1 เดือน โดยที่ตัวผมและภรรยาก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก!!!
ส่วนตัวผมค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าการฝันของภรรยาผมในแต่ละครั้งนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องงั่ง เพราะช่วงเวลาและสถานการร์ต่างๆ มันดูสอดคล้องกันครับ
โดยในช่วงที่ผมได้ “ขุนศึกและราชัน” มาใหม่นั้นผมพก “ขุนศึก” แบบแขวนเดี่ยวก่อน เพื่อที่จะดูประสบการณ์ พอแฟนผมบอกว่าฝันถึงผมที่มาในรูปร่างตัวใหญ่ ผมก็เดาว่าน่าจะเป็น “จักพรรดิ” ที่มาเข้าฝันภรรยา ผมจึงพกจักรพรรดิใส่ถุงผ้าเอามาทำงานด้วย จะได้ไม่กวนภรรยาผมอีก โดยผมพูดเล่นๆกับภรรยาว่าตอนนี้พก “ขุนศึกและจักรพรรดิ” มาทำงานด้วย ถ้าหากยังฝันอีก ผู้ต้องสงสัยน่าจะเหลือแค่ “โงกุน” และ “ราชัน”
ซึ่งในวันที่ 20 ก.พ. 63 ภรรยาผมนอนพักผ่อนตอนกลางวัน เหมือนปกติทุกวัน ตกบ่ายไลน์มาบอกผมว่าถ้ากลับบ้านแล้วมีเรื่องอะไรจะเล่าให้ฟัง
บอกแค่นี้ผมก็เดาได้แล้วครับว่าเรื่องอะไร หลังจากได้คุยกันจึงรู้ว่าช่วง 11 โมง ในขณะที่แฟนผมหลับแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น ภรรยาผมฝันเห็นผมแต่ครั้งนี้มาในรูปร่างตัวใหญ่ ผิวเข้มมาก
เธอย้ำว่าตัวใหญ่และผิวเข้มมาก ไม่เหมือนครั้งก่อนๆที่เคยฝันถึง ซึ่งรายละเอียดในฝันผมไม่ขอพูกถึงนะครับ เอาเป็นว่าคงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทุกครั้งที่ภรรยาผมฝัน ทั้งตอนกลางวันหรือกลางคืน
เธอบอกว่าความรู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น และพอฝันเสร็จก็จะสะดุ้งตื่นทุกครั้ง โดยในครั้งนี้ผู้ต้องสงสัยคงหนีไม่พ้น “ราชัน” เพราะว่าเป็นงั่งที่ผมทิ้งไว้ที่บ้าน และมาในฝันในรูปแบบที่แตกต่างจากโงกุนและจักรพรรดิ
ผมแยกลักษณะจากที่ปรากฏในฝัน
มาในรูปแบบตัวผมปกติ – โงกุน
มาในรูปร่างผมที่ตัวใหญ๋ – จักรพรรดิ
มาในรูปร่างผมที่ตัวใหญ๋และผิวเข้ม – ราชัน
ซึ่งถ้านับการฝันในวันที่ 20 ก.พ. 63 ภรรยาผมฝันแบบนี้มาแล้วเป็นครั้งที่ 6
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเหตุเกิดจากพระงั่งของผมชุดนี้แน่นอน เพราะว่าจากประสบการณ์ในการใช้งานงงั่งและเป๋อของผม ผมเจอมาหลายรูปแบบ
โดยการเข้าฝันภรรยาผมนั้น เกิดขึ้นไอ้งั่งตาแดงแบบที่นั่งแก้ผ้าโชว์จู๋ทั้งนั้น โดยในปี 2562 ที่เจอประสบการณ์ครั้งแรกจากโงกุน ตอนนั้นยังไม่มีอะไรมายืนยัน
เพราะเกิดการฝันแบบเดิมๆ แต่พอได้จักรพรรดิ ขุนศึกและราชันมาในช่วงต้นปี 2563 และเกิดเหตการณ์แบบนี้ติดๆกัน ในความเชื่อของผมบอกได้เลยว่า 100%
และในคืนวันที่ 25 ก.พ. 63 ที่ผ่านมา ช่วงกลางดึกระหว่างที่ผมหลับอยู่นั้น อยู่ดีๆภรรยาผมก็สะดุ้งตื่นและเรียกชื่อผม ผมก็คิดว่าละเมอ
ซึ่งในตอนนั้นเธอบอกว่าสะดุ้งตื่นและหันมาไม่เจอผมจึงต้องเรียกชื่อผม ด้วยความง่วงผมก็นอนต่อโดยไม่ได้ถามอะไร
พอตอนเช้าเธอเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนที่สะดุ้งตื่นนั้น สาเหตุเกิดจากฝันถึงผม…อีกแล้ว
โดยในฝันนั้นเธอเห็นเป็นผมรูปร่างตัวใหญ่ ซึ่งผมถามว่าตัวดำไหม เธอบอกว่าตัวใหญ่ ผิวปกติ สีผิวไม่เข้มเหมือนครั้งก่อน นั่นจึงทำให้ผมคิดว่า เป็นจักรพรรดิที่มาเข้าฝันแฟนผม
โดยในขณะที่ภรรยาผมฝันนั้นเธอมีอาการกึ่งหลับกึ่งตื่นเหมือนหลับไม่สนิท พอฝันเสร็จจึงสะดุ้งตื่น
ซึ่งเรื่องที่น่าแปลกคือ หลังจาากที่ผมพก “ขุนศึก” แบบพกเดี่ยว คืนวันที่ 25 ก.พ. 63 ผมเอาจักรพรรดิมาผูกเชือกแขวนเอวแล้วใส่เข้านอน
ซึ่งคืนนั้นภรรยาผมก็ฝันอีกครั้ง อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น ไม่ว่าจะบังเอิญ ฟลุ๊ค หรือด้วยเหตุผลใด การฝันของภรรยาผมตั้งแต่เดือน ม.ค. 62 – ก.พ. 63 นั้น ทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายอย่างมากขึ้น
เรื่องที่งั่งเข้าฝันคนในบ้านที่ผมเคยได้ยินมาจากคนอื่น…ตอนนี้มันเกิดขึ้นกับผมแล้ว
รวมถึงเรื่องที่แฟนหรือคนรักของเราจะฝันเห็นงั่งเป็นตัวเรา เรื่องเหล่านี้ผมเคยได้ยินและได้ฟังมานับครั้งไม่ถ้วน โดยที่ผ่านๆมาผมคิดว่าน่าจะมีมูลความจริงอยู่บ้าง
เพียงแต่ผมยังไม่เคยเจอด้วยตัวเองจึงยังไม่ปักใจเชื่อ
ฟังผมเล่าอาจจะดูสนุก แต่ความรู้สึกตอนที่เจอนั้นมันไม่สนุกครับ ผมรู้สึกห่วงภรรยาเพราะว่าเค้าเป็นคนฝัน
ถ้าหากเธอรู้สึกกลัวผมคงต้องเอางั่งออกไปไว้นอกบ้าน แต่โชคดีที่ภรรยาผมไม่กลัว ผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีนี้จึงรอดตัว
และอีกอย่างนึงก็คือไม่ใช่ว่างั่งจะมาเข้าฝันแฟนผมอย่างเดียว เรื่องดีๆที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผมใช้งั่งและเป๋อ
โดยเฉพาะชุดไอ้งั่งตาแดงโบราณชุดนี้ ทำให้ผมรู้ซึ้งถึงคำว่า “ของดี” นั้นคืออะไร
บทสรุปก็คือ…ตำนานเกี่ยวกับงั่งเรื่องเข้าฝันนั้นเป็นเรื่องจริง
สำหรับผมแล้วเรื่องที่ยังไม่เจอกับตัวเองคือเรื่อง “งั่งพลิกได้” และ “งั่งเหนียวฟันแทงไม่เข้า”
จะมีโอกาสได้เจอไหม ไม่มีใครบอกได้ครับ จนกว่าจะถึงวันนั้น…รอกันต่อไป
Bye bye