สวัสดีครับทุกคน เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้วผมได้รับการติดต่อเพื่อเสนอขายงั่งตาแดง ซึ่งหลังจากที่ได้ดูรูปและคุยรายละเอียดเบื้องต้นกับเจ้าของงั่งแล้ว ก็มีการนัดกันที่ TESCO LOTUS นครชัยศรี ซึ่งเป็นวันเสาร์ที่ผมสะดวก ไม่มีคิวนัดหมายอะไร และระยะทางก็ไม่ไกลจากบ้านผมมาก จึงตกลงนัดเจอกัน
ซึ่งปกติเวลาที่มีคนเสนอขายงั่งให้ผม ถ้าหากอยู่ไกลกันมาก ส่วนใหญ่จะโอนเงินและส่งของกันทางไปรษณีย์ แต่เจ้าของงั่งคนนี้ต้องการให้ผมไปดูงั่งก่อนจะทำการซื้อขาย ซึ่งสำหรับผมถือว่าแฟร์ดีครับ เพราะถ้าดูแล้วไม่ผ่านก็จะได้ไม่ต้องรับมา แต่จากรูปที่ดูเบื้องต้นนั้น ผมดูแล้วไม่กังวลครับ เพราะดูง่ายมาก (ต้องยอมรับว่าช่วงหลังนี้งั่งตาแดงพิมพ์นี้ ของปลอมออกมาเยอะ)
ปัญหาก็คือคุยกันตั้งแต่วันเสาร์ที่แล้ว นัดกันวันเสาร์อีกสัปดาห์ ทุกครั้งที่เป็นแบบนี้ผมมักจะกังวล กลัวว่าเจ้าของจะเปลี่ยนใจไม่ขาย หรือว่ามีคนมาเช่าตัดหน้า และอื่นๆอีกหลายปัจจัย แต่ในที่สุดวันเสาร์ก็มาถึง ผมขับรถออกจากบ้านประมาณ เก้าโมงครึ่ง ขับไปเรื่อยๆไม่นานก็ถึงสถานที่นัดหมาย เมื่อไปถึงเจ้าของงั่งยังไม่มา ผมเลยนั่งรอใน FOOD CENTER นั่งรอประมาณ 10 นาทีก็ได้เจอกันครับ เมื่อมาถึงเค้าหยิบถุงสีชมพูออกจากกระเป๋ายื่นให้ผมแล้วบอกผมว่า พี่ลองดูครับ ผมค่อยๆเปิดถุงออกแล้วหยิบงั่งออกมาจากถุงผ้าใบนั้น จากประสบการณ์ในการจับงั่งพิมพ์นี้มานับไม่ถ้วน ผมใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีในการดูด้านหน้า ด้านหลัง ใต้ฐานและเขย่าลองเสียงกริ่ง จากนั้นผมบอกตัวเองว่า “ใช่เลย” เมื่อเจ้าของงั่งเห็นว่าผมพยักหน้าหงึกๆ จึงถามผมว่า “ดีไหมพี่” ตัวนี้อยู่กับพ่อผมมานาน รับประกันว่าของแท้ เห็นพ่อใช้ตั้งแต่ผมเป็นเด็ก นี่ถ้าพ่อยังอยู่เค้าไม่ยอมปล่อยแน่ๆ ผมจึงถามว่าคุณพ่อเสียแล้วหรือครับ เค้าจึงตอบว่าใช่ เพิ่งเสียได้ไม่นาน ผมเลยถามต่อว่านี่พ่อยกให้แล้วใช่ไหม และผมได้รับคำตอบว่าพ่อยังไม่ได้ยกให้ แต่จำได้ว่าเคยเห็นพ่อใช้และพกติดตัวเป็นประจำ พอพ่อเสียแล้วจึงไปค้นเจอ
โดยที่ประวัติของงั่งตัวนี้นั้น พ่อได้มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ ตอนที่เป็นทหารโดยพ่ออยู่ที่กาญจนบุรีแต่ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัดว่าพ่อได้งั่งตัวนี้มาจากใครหรือที่ไหน งั่งตัวนี้อยู่กับพ่อมาประมาณ 30 กว่าปี ช่วงที่เป็นทหารนั้นได้ถูกย้ายไปประจำการอยู่ชายแดนเขมร ซึ่งในระหว่างที่เป็นทหารนั้นก็จะพกใช้งานติดตัวตลอด
จากนั้นเจ้าของงั่งได้พูดว่า “งั่งตัวนี้ไม่ได้ใช้งานด้านสเน่ห์นะครับ แต่ใช้ด้านแคล้วคลาดมหาอุตย์” และเล่าต่อว่าพ่อเคยเอาไปทดลองยิงในค่ายทหารด้วยปืน M16 ซึ่งตอนที่ไปทดลองนั้น นำพระไปทดสอบหลายองค์แต่พระที่นำไปลองยิงทั้งหมดนั้นถูกยิงแตกกระจาย เหลือแต่งั่งตัวนี้ตัวเดียวเท่านั้นที่ยิงออกแต่ยิงไม่โดน (พี่เค้าไม่ได้อยู่ในเหตการณ์ แต่พ่อเล่าให้ฟัง)
ซึ่งการพกใช้งานของพ่อเค้านั้น จะใส่ถุงผ้าแล้วพกติดตัว ซึ่งวันไหนที่พกงั่งตัวนี้ พ่อจะไม่แขวนพระ พอถึงวันพระก็จะเซ่นด้วยลาบเลือดและน้ำใส่แก้วเล็กๆ ทำแบบเงียบๆคนเดียว เค้าเห็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ โดยที่พ่อไม่เคยให้เอามาใช้ จนถึงปัจจุบันที่พ่อเสีย จำได้ว่าพ่อมีงั่งเก็บไว้ เลยไปค้นจนเจอ จากนั้นก็เอามาปล่อยให้ผมต่อ ซึ่งหลังจากที่ได้จับและได้พูดคุยข้อมูลเบื้องต้น ผมก็ตกลงรับเข้าสังกัดทันที ที่ไม่ต้องใช้เวลาต่อรองนานมากเพราะตกลงเรื่องราคากันมาแล้ว วันนี้แค่นัดมารับของเท่านั้น พอเสร็จภารกิจก็ต่างคนต่างแยกย้าย ผมจึงได้ถ่ายรูปงั่งพร้อมถุงสีชมพูที่เจ้าของเดิมเค้าเอามาให้เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าตอนได้มานั้น มาแบบไหน และเมื่อกลับมาถึงบ้านก็ตามธรรมเนียมครับ ผมเช็ดด้วยแอลกอฮอล์และน้ำเกลือเพื่อฆ่าเชื้อโรค จากนั้นจึงนำมาถ่ายรูปมุมต่างๆเพื่อเก็บบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน
ปกติผมมักจะตั้งชื่องั่งของผมทุกตัว เพื่อให้จำได้ง่าย และตัวนี้ก็เช่นกัน หลังจากนึกอยู่นานว่าจะใช้ชื่อว่าอะไรดี ผมก็นึกถึงประโยคที่เจ้าของงั่งพูดถึงการทดลองยิงด้วยปืน M16 ว่าลองแล้วยิงไม่โดน ผมจึงขอตั้งชื่องั่งตาแดงเนื้อทองแดงเถื่อนตัวนี้ว่า “M16” เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่างั่งตัวนี้นั้นเป็น “งั่งสายเหนียว” ขอเชิญทุกคนดูรู)ภาพมุมต่างๆของ M16 ได้เลยครับ
เอาล่ะครับ หลังจากชมภาพมุมต่างๆพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ผมก็จะขอตัวไปนอนก่อนครับ ณ.ตอนที่เขียนบทความนี้เป็นวันที่ 4 ก.พ. 2561 เวลา 1.18 น.
หลับฝันดีครับมิตรรักแฟนงั่งทุกคน
แอดเป็นเพื่อนกับ MODERN MAJIK ใน LINE คุณจะไม่พลาดข่าวสารและบทความล่าสุดจากเรา
รับซื้องั่งและเป๋อเก่า
ติดตามเราผ่าน Google+
ติดตามเราผ่าน Facebook Fanpage