เรื่องเล่าจากลุงจิตต์ เกี่ยวกับ
“งั่งเขมรตาโปนอุดกริ่งเนื้อทองแดงเถื่อน”
หลังจากที่ผมได้เช่า”บังเอิญ”มาจากลุงจิตต์แลัวนั้น ก็ทำให้ผมมีงั่งเขมรตาโปนอุดกริ่งเนื้อทองแดงเถื่อนทั้งหมด 2 ตัว คือ “ทองแดง” และ “บังเอิญ” ซึ่งจากพูดคุยกับคนเล่นงั่งหลายๆคน
ทำให้รู้ว่างั่งพิมพ์นี้นั้น ส่วนใหญ่นักเลงมักจะพกกันครับ เพราะ”ทองแดง”ของผมก็ได้มาจากนักเลงเมืองเพชรส่งต่อมาถึงนักเลงเมืองศรีสะเกษแล้วก็มาถึงผม ส่วน”บังเอิญ”นั้น ก็มาจากกำนันเมืองชล มาถึงลุงจิตต์ แล้วก็มาถึงผม
ลุงจิตต์เล่าให้ฟังว่า แกเคยเห็นงั่งเขมรตาโปนอุดกริ่งเนื้อทองแดงเถื่อนพิมพ์แบบนี้มาก่อน ซึ่งเป็นของพ่อตาแกเอง พ่อตาของลุงจิตต์เป็นนักเลงเมืองกาญจนบุรีครับ แกบอกว่าเป็นคนใจร้อนมาก ถ้าพูดจาไม่ถูกหูนี่เป็นเรื่อง นิสัยใจร้อนตกมาถึงเมียแกด้วย (แกแอบกระซิบบอก)
พ่อตาแกเคยมี”งั่งเขมรตาโปนอุดกริ่งเนื้อทองแดงเถื่อน”แต่ลุงจิตต์แกเรียกว่า”พระชัย”ครับ เพราะแกบอกว่าไม่ได้ตาสีแดงเลยไม่ใช่งั่ง!!!
สมัยพ่อตาแกเป็นหนุ่มๆ ช่วงนั้นเป็นช่วง”สงครามมหาเอเชียบูรพา” ซึ่งก็มีทหารญี่ปุ่นเข้ามาในไทยเพื่อใช้เป็นทางผ่านขึ้นไปเวียดนาม ตามประวัติศาสตร์ที่เรารู้ๆกันครับ
พ่อตาของแกและพวกชาวบ้านก็ไปรับจ้างทหารญี่ปุ่นในการทำงานต่างๆ ซึ่งหนึ่งในงานที่ได้รับมอบหมายก็คือการไปขุดถ้ำเพื่อฝังสมบัติของญี่ปุ่น…โห พอแกเล่ามาถึงตอนนี้โคตรตื่นเต้นเลยครับ
เหมือนดูหนังขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าเลยครับ Indiana Jones แกบอกว่าทหารญี่ปุ่นเอาคนงานที่จะไปขุดดินฝังสมบัติจับมัดมือและปิดตาแล้วพานั่งรถเข้าไปในป่าลึก โดยนั่งรถไปแบบมองไม่เห็นทาง
พอไปถึงก็ให้ขุดตามตามแบบที่ได้ออกแบบเอาไว้ พ่อตาของแกบอกว่าการขุดนี่ขุดเป็นถ้ำใต้ดินเลยครับ ไม่ใช่ขุดเป็นหลุมแล้วฝังลงไปเฉยๆนะครับ ขุดเป็นถ้ำแบบขุดเป็นหลุมลงไปตรงๆก่อน แล้วค่อยขุดเป็นแนวขนานกับผิวดิน ขุดลึกเข้าไปเรื่อยๆแล้วเอาของไปฝัง
ซึ่งตอนฝังสิ่งของนั้นแกไม่ได้เล่าว่าพ่อตาแกบอกว่าฝังอะไร รู้แค่ว่าคนงานที่ไปขุดถ้ำนั้น ไม่รู้ว่าที่ๆไปขุดนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่
ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามพอดี ทางทหารญี่ปุ่นในไทยเลยต้องถอนกำลังกลับ ซึ่งในช่วงที่ทหารญี่ปุ่นเดินทางกลับนั้น พวกชาวบ้านก็ได้พากันไปตามหาถ้ำที่ฝังสมบัติ โดยพากันไปหลายคนเพราะจะไปขุดหาสมบัติกัน
ระหว่างที่ชาวบ้านพากันขุดดินเพื่อหาของอยู่นั้น เครื่องบินของญี่ปุ่นก็ได้บินวนมาแล้วก็ยิงกราดลงมาท่ามกลางชาวบ้านที่กำลังขุดหาของกันอยู่ ผลของการยิงลงมาจากเครื่องบินทำให้ชาวบ้านที่อยู่ตรงนั้น โดนยิงตายหมด (ลุงจิตต์แกพูดว่า ตายหมด)
เหลือแต่พ่อตาแกคนเดียวที่รอดมาได้ และตอนนั้นพ่อตาแกบอกว่าไม่ได้พกอะไรไปเลยนอกจาก”พระชัย”องค์เดียว ซึ่งพระชัยที่แกบอก็คือ “งั่งเขมรตาโปนอุดกริ่งเนื้อทองแดงเถื่อน”นั่นเองครับ
ส่วนเรื่องประวัติของงั่งตัวนั้นผมก็ไม่ได้ถามว่าพ่อตาแกได้มายังไง ลุงจิตต์เองก็ไม่รู้ ผมก็ถามว่าแล้วตอนนี้งั่งตัวนั้นอยู่ที่ไหน แกบอกว่าน้องเมียแกเอาไปใช้แล้ว พอถามว่าถ้าไปขอซื้อจะได้ไหมแกบอกว่าไม่มีทางเพราะน้องเมียแกหวงครับ ตอนนี้เป็นผู่รับเหมาอยู่และเป็นนักเลงเหมือนกัน
จากเรื่องราวและประสบการณืที่ผมได้ฟังลุงจิตต์นั้น ทำให้ผมรู้สึกประทับใจต่องั่งพิมพ์นี้ เรียกได้ว่า ที่สุดเลยครับ นอกจากเรื่องเล่าของลุงจิตต์แล้ว วันหลังผมจะมาเล่าเรื่องเล่าจากนักเลงศรีสะเกษกันบ้างครับ รับรอง มันส์…ไม่แพ้กัน
รับซื้องั่งและเป๋อเก่า
แบ่งปันข้อมูลงั่งและเป๋อ
คุณจะไม่พลาดทุกบทความ
ติดตามเราผ่าน Google+
ติดตามเราผ่าน Facebook Fanpage